Technology NFC TAG
เราสามารถเรียกแท็กเหล่านี้ว่า “สมาร์ทแท็ก แท็กข้อมูล” หรือในกรณีนี้คือ NFC TAG แต่โครงสร้างพื้นฐานของแท็กเหล่านี้จะคล้ายกับแท็ก RFID โดยทั้งสองแท็กมีหน่วยความจำเก็บข้อมูลเล็กน้อยพร้อมกับชิปวิทยุที่ติดอยู่กับเสาอากาศ
ความแตกต่างที่แท้จริงมีอยู่ประการเดียวคือแท็ก NFC ถูกจัดรูปแบบให้ใช้กับระบบ NFC ได้ และมีขนาดเล็กพอและมีราคาถูกพอที่จะนำไปรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ทุกประเภทได้ เช่น โปสเตอร์ บัตรขึ้นลิฟต์สกี สติกเกอร์ นามบัตร ขวดยาตามใบสั่งแพทย์ และแม้แต่ฉลากที่ทนทานซึ่งออกแบบมาสำหรับใช้กลางแจ้ง
NFC TAG เป็นแบบพาสซีฟ หมายความว่าไม่มีแหล่งพลังงานใดๆ แต่จะใช้แหล่งพลังงานจากอุปกรณ์ที่อ่านแท็กแทน โดยอาศัย “การเหนี่ยวนำแม่เหล็ก” เมื่อเครื่องอ่านเข้าใกล้แท็กมากพอ เครื่องจะจ่ายพลังงานให้แท็กและถ่ายโอนข้อมูลจากแท็กนั้น คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเหนี่ยวนำแม่เหล็กได้ในหัวข้อการทำงานของพลังงานไร้สาย
ณ เวลาที่ NFC TAG มีทั้งหมด 5 ประเภท ตั้งแต่ประเภท 1 ถึงประเภท 5 โดยแต่ละประเภทมีความจุ ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล และความสามารถในการอ่าน/เขียนที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว แท็ก ประเภท 1จะเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ 93 ไบต์ถึง 2 กิโลไบต์ และทำงานที่ความเร็ว 106 Kbps (กิโลบิตต่อวินาที) ส่วนประเภท 4ซึ่งจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เป็นแท็กที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุด สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 32 KB และทำงานที่ความเร็วสูงสุด 424 Kbps ส่วนประเภท 5 สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 64 ไบต์ และมีความเร็ว 26.58 Kbps
แม้ว่าแท็ก NFC ทั้งหมดจะเป็นแบบอ่านอย่างเดียว แต่แท็กประเภท 1, 2 และ 3 สามารถเขียนซ้ำได้ ใครๆ ก็สามารถซื้อแท็ก NFC เปล่าที่เขียนซ้ำได้ แท็กเหล่านี้สามารถเขียนซ้ำได้หลายพันครั้ง แต่แท็กเหล่านี้ยังถูกบล็อกเพื่อไม่ให้ถูกเขียนทับได้อีกด้วย แท็กที่มีหน่วยความจำมากขึ้นและเสาอากาศขนาดใหญ่จะมีขนาดใหญ่กว่า โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของแท็กจะอยู่ระหว่าง 1 ถึง 2 เซนติเมตรไปจนถึงไม่กี่นิ้ว